วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

Review คุ๊กกี้แครนเบอร์รี่ผสมเมล็ดม่วงหิมพานต์ค่าา


                       วันนี้จะมา Review 
       Dried Cranberry & Cashew Cookies






แนะนำค่ะของ Nut Walker จริงๆผลิตภัณฑ์เค้าเองมีหลายแบบ แต่วันนี้ Review รสชาตินี้ก่อน Dried Cranberry & Cashew Cookies กล่องสีแดง เป็นคุ๊กกี้แครนเบอร์รี่ผสมเมล็ดมะม่วงหิมพานต์
 หน้าตาคุ๊กกี้ โดยส่วนตัวพอได้รับประทานแล้วรู้สึกชอบมาก เพราะเป็นคนไม่ชอบหวาน รสชาติลงตัวมาก นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของ

แครนเบอรี่ ซึ่งเป็นเบอรี่ที่มีวิตามิน และแร่ธาตุสูง บำรุงผิวพันธ์ ต้าน

อนุมูลอิสระเช่นกัน รสชาติจะรสของแครนเบอร์รี่ซึ่งจะตัดกับความ

หวานของตัวคุ๊กกี้เอง เข้ากันดีจริงๆค่ะ คุ๊กกี้ตัวนี้จะกรอบนอกนุ่มในค่ะ 

ยิ่งได้กินกับชาช่วงเวลาบ่ายๆๆ Afternoon tea thailand 

จริงๆเลยค้า ไม่ต้องไปไกลถึงฝรั่งเศษ 


แครนเบอรรี่อบแห้ง


มาทำความรู้จัก แครนเบอรรี่อบแห้งกัน

          แครนเบอร์รี่ (Cranberries) เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีผลเล็ก ๆ สีแดงสด รสชาติหวานอมเปรี้ยว มักจะปลูกในแถบประเทศอเมริกา และแคนาดา แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ทานเจ้าผลไม้นี้แบบสด ๆ กันสักเท่าไหร่ มักจะได้ทานแครนเบอร์รี่ในรูปแบบที่ผสมมากับอาหารชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผลไม้ ซอส แยม โยเกิร์ต รวมทั้งแครนเบอร์รี่อบแห้ง

  ส่วนใครที่เห็นว่า แครนเบอร์รี่ ลูกเล็ก ๆ นี้ ไม่น่าจะมีฤทธิ์อะไรต่อสุขภาพมากนัก ขอบอกว่า คิดผิดถนัดค่ะ เพราะเจ้าลูกเล็ก ๆ นี้แหละที่มีสารอาหารมากมาย โดย แครนเบอร์รี่ 100 กรัม จะให้สารอาหารดังนี้


          พลังงาน 46 กิโลแคลอรี
          ไฟเบอร์ 4.6 กรัม
          น้ำตาล 4.04 กรัม
          แคลเซียม 8 มิลลิกรัม
          แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม
          แมงกานีส 0.15 มิลลิกรัม
          ฟอสฟอรัส 13 มิลลิกรัม
          โพแทสเซียม 85 มิลลิกรัม 
          โซเดียม 2 มิลลิกรัม
          วิตามินซี 13.3 มิลลิกรัม
          วิตามินเอ 60 IU
          วิตามินเค 5.1 ไมโครกรัม
          แคโรทีน 36 ไมโครกรัม
          ลูทีน และซีแซนทีน 91 ไมโครกรัม


เห็นสารอาหารเต็มเปี่ยมอย่างนี้แล้ว คงอยากรู้แล้วใช่ไหมว่า แครนเบอร์รี่ มีประโยชน์อย่างไรต่อสุขภาพบ้าง เรามาดูพร้อมพร้อม กันเลย

 แก้โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

          แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย จึงมีสรรพคุณต่อกรกับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากในแครนเบอร์รี่มีสารหลายชนิด โดยเฉพาะสารแทนนิน ที่ช่วยหยุดการเกาะตัวของแบคทีเรียอี โคไล ที่บริเวณผนังทางเดินปัสสาวะ คนที่เป็นโรคนี้ให้ดื่มน้ำแครนเบอร์รี่เข้มข้น ไม่มีน้ำตาลแก้วละ 250 มิลลิลิตรทุกวัน วันละ 3 แก้ว ถ้าจิบวันละ 1 แก้วจะช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นโรคนี้ได้อีก หรือรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากแครนเบอร์รี่วันละ 800 มิลลิกรัมก็จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยขจัดกลิ่นในปัสสาวะได้ด้วย

ช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากอากาศหนาว

          แครนเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บที่มากับอากาศหนาวได้ และยังเหมาะที่จะนำไปทำเครื่องดื่มประเภทสมูธตี้ผลไม้ นำส้มคั้นลูกขนาดกลางหนึ่งลูก เกรปฟรุตครึ่งลูกคั้นเอาแต่น้ำใส่ในเครื่องปั่น เติมแครนเบอร์รี่ 2 กำมือและกล้วย 1 ผลลงไป ปั่นให้เข้ากัน ดื่มเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทาน และช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนอยู่ในฤดูร้อนที่แสนสดใส

 ผิวพรรณและริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื่น

          แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี และแอนตี้ออกซิเดนท์จำนวนมากที่ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น จึงเหมาะที่จะนำไปทำเป็นลิปมัน เพื่อป้องกันริมฝีปากแห้งแตกในช่วงหน้าหนาว โดยนำแครนเบอร์รี่ 10 ผลผสมกับน้ำมันสวีทอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำมันวิตามินอี 1 หยด ไปต้มจนเดือด นำส่วนผสมที่ได้ไปบดให้ละเอียดผ่านกระชอน เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้เย็น นำมาทาเวลาปากแห้ง

          นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่า ในแครนเบอร์รี่มีสารโปรแอนโธไซยานิดีน (Proanthocyanidine) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสีกลุ่มสีม่วงที่ดีกับสุขภาพเส้นเลือดอีกด้วย แถมยังช่วยป้องกันโรคเหงือก และแผลในช่องท้องได้อีกต่างหาก

เห็นประโยชน์ดี ๆ ของผลไม้จิ๋วลูกนี้แล้ว คงต้องรีบไปหาแครนเบอร์รี่มาลิ้มชิมรสกันแล้วล่ะ ^^






คุณสามารถอัพเดทความประโยชน์ และความรู้ได้ที่ Facebook Page ประโยชน์ที่อยากบอกต่อ
เข้าไปร่วมแชร์ความคิดเห็นได้นะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น